ของ บริษัท แมคไทย จำกัด
บริษัท แมคไทย จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือกับลูกค้ารวมถึงพนักงานและบุคคลากร บริษัทจึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ทางการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการขายสินค้า การให้บริการ การเสนอบริการหรือขายสินค้า หรือโปรโมชั่นของบริษัท หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ไม่ว่าท่านจะเป็นลูกค้า ผู้รับบริการ ผู้เยี่ยมชม ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก็ตาม บริษัทตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับสิทธิและความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การรักษาความลับ ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน โดยบริษัทจะดำเนินการตามวัตถุประสงค์และความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทในเรื่องเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามที่กฎหมายกำหนดและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
1. นิยาม
นิยาม | ความหมาย |
---|---|
การประมวลผลข้อมูล | หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อม ใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย |
ข้อมูลชีวภาพ | หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ |
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ | หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว |
ข้อมูลส่วนบุคคล | หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม |
ข้อมูลสาธารณะ | หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (social media credential) เช่น Facebook Twitter และ Line เพื่อเชื่อมต่อ หรือเข้าสู่บริการใด ๆ ของบริษัท เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (social media account ID) สิ่งที่สนใจ (interests) รายการที่ชอบ (likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว | หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด |
คณะกรรมการ | หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
คุกกี้ (Cookie) | หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว |
คู่ค้า | หมายถึง คู่สัญญา ผู้รับจ้าง หรือผู้ให้บริการของบริษัทและบริษัทในเครือซึ่งให้บริการหรือดำเนินการอื่นใดแก่บริษัทและบริษัทในเครือ ไม่ว่าจะมีสัญญาหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ ไม่รวมถึงคู่สัญญาหรือคู่ค้าที่รับบริการจากบริษัทหรือบริษัทในเครือ |
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทหรือบริษัทในเครือมีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตามนโยบายนี้หมายความรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงพนักงานและคู่ค้า |
นโยบาย | หมายถึง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครและพนักงานหรือคู่ค้าของบริษัทและบริษัทในเครือฉบับนี้และที่อาจจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม |
บริษัท | หมายถึง บริษัท แมคไทย จำกัด |
บริษัทในเครือ | หมายถึง บริษัทลูก บริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่ม ของบริษัท แมคไทย จำกัด ได้แก่ มูลนิธิ แมค แฮปปี้ แฟมิลี่ |
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล | หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
ผู้ประมวลผลข้อมูล | หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม |
สำนักงาน | หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
แอพพลิเคชัน | หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่งและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่างๆ |
IP Address | หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กำหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องพิมพ์ ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล ในการสื่อสาร |
Log | หมายถึง ข้อมูลที่เกิดจากการใช้งานแอพพลิเคชั่น ซึ่งรวมถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของแอพพลิเคชั่น |
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย
บริษัทอาจจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่คณะกรรมการกำหนด) ได้แก่
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่คณะกรรมการกำหนด) ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับบริษัทโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากการให้บริการหรือการดำเนินงานของบริษัทผ่านทุกช่องทาง ดังนี้
(ก) | ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเกิด อายุ อาชีพ เพศ สถานภาพทางการสมรส รูปถ่าย หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ เลขที่หนังสือเดินทาง อีเมล หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address) ข้อมูลทางการเงินในการใช้บริการหรือสั่งซื้อสินค้ากับบริษัท เนื้อหาที่ท่านสนใจ ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง |
(ข) | ข้อมูลพฤติกรรมการสืบค้น หมายถึง ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องต่อบุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตนได้ เช่น ประเภทเบราเซอร์ โดเมน เว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาเข้าเว็บไซต์ ที่อยู่เว็บไซต์อ้างอิงข้อมูลเพื่อการสนับสนุนลูกค้า โดยจะมีการเก็บ Log การใช้งานของท่านจากแอพพลิเคชั่นของทางบริษัท |
(ค) | ข้อมูลระบบ หมายถึง ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บโดยอัติโนมัติเมื่อท่านล๊อคอินเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท ไม่ว่าจะผ่านทางคุกกี้ เว็บบีคอน ไฟล์ล๊อคอิน สคริปท์ (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในโยบายคุ้กกี้ของบริษัท) รวมถึงข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี ประเภทของบราวซเซอร์ โดเมน ประวัติเว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาการเข้าใช้งาน ที่อยู่เว็บไซต์ที่อ้างอิง ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านค้นหา หรือที่ท่านดูในขณะที่ใช้เว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานแอพพลิเคชั่น |
(ง) | ข้อมูลที่ตั้ง หมายถึง ข้อมูลที่ได้รับจากจีพีเอส ไวไฟ เข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง IP Address หรือโพสต์สาธารณะซึ่งระบุข้อมูลที่ตั้ง |
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)
ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการของบริษัท หรือการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในบางกรณี บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับ เชื้อชาติ ศาสนา หรือ ปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพและข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้ บริษัทจะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทต่อไป (ต่อไปในนโยบายฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจง จะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)
3. วิธีที่ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยกระบวนการต่อไปนี้
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง ทั้งการเก็บข้อมูลจากการซื้อสินค้าหรือการใช้บริการ รวมถึงการเยี่ยมชม การติดต่อ หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับ
(ก) | เมื่อแสดงเจตนาจะซื้อสินค้าหรือใช้บริการของบริษัท (“ผลิตภัณฑ์” หรือ “บริการ”) การสมัครสมาชิก รวมถึงการลงทะเบียนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงข้อมูลข้อที่ได้จากการส่งเอกสารและใบสมัครต่าง ๆ เพื่อซื้อสินค้า ใช้บริการ สมัครสมาชิก หรือลงทะเบียน หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ข้อมูลส่วนบุคคลขณะที่พิจารณาจะซื้อสินค้าหรือใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นหนังสือหรือวาจา โดยไม่คำนึงว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ติดต่อก่อนก็ตาม |
(ข) | เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อกับบุคลากร เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พนักงานขาย ตัวแทน นายหน้า ผู้รับจ้าง คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องของบริษัทผ่านทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ หรือโดยวิธีการอื่นใด |
(ค) | เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับฉลาก ชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือการแข่งขันต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัท หรือบุคลากรและคู่ค้าของบริษัท |
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต หรือสามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึง
(ก) | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากกลุ่มบริษัทในเครือ |
(ข) | ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น |
(ค) | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ (Non-Public Records) ที่บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย |
(ง) | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการเข้าเยี่ยมชมเว็ปไซต์ เช่น ชื่อของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และที่อยู่ไอพี (IP Address) ผ่านการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต วันที่และเวลาของการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชมขณะเข้าเว็บไซต์ และที่อยู่ของเว็บไซต์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์ของบริษัท ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address, MAC address, Cookie ID, IMEI รวมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยการใช้คุกกี้ |
(จ) | พฤติกรรมการใช้งานแอพพลิเคชั่น โดยจะมีการเก็บ Log การใช้งานของท่านจากแอพพลิเคชั่นของทางบริษัท |
(ฉ) | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย |
4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
4.1 | เพื่อการขายสินค้าหรือการให้บริการ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่จะมีในอนาคต ตลอดจนการดูแล การบำรุงรักษา และการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดังกล่าว |
4.2 | เพื่อการทำรายการตามวัตถุประสงค์ที่ท่านต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชมเว็บไซต์ และ/หรือ โมบายแอพลิเคชั่นของบริษัท |
4.3 | เพื่อการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เช่น การสมัครสมาชิก การชำระเงิน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง |
4.4 | เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
4.5 | เพื่อยืนยัน และ/หรือ ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าใช้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือการติดต่อกับบริษัท |
4.6 | เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท |
4.7 | เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท |
4.8 | เพื่อการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ/หรือ บริการอื่น ๆ ของบริษัท เช่น การให้คำแนะนำ และ/หรือ ข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ในการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท |
4.9 | เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและการขยายธุรกิจของบริษัท |
4.10 | เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมในการตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดหรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย ตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานรัฐหรือรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยอยู่ บังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ปกป้องการดำเนินธุรกิจของบริษัท ปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของบริษัท บุคคลากร และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น เยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น |
4.11 | เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับ หรือข้อผูกพันที่กฎหมายหรือภาครัฐกำหนด |
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการแจ้งเมื่อบริษัทมีการขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
อนึ่ง ในการได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมานั้น บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ตาม ข้อ 4. เฉพาะเมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้:
1. | ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทตามกฎหมาย |
2. | เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา |
3. | เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล |
4. | เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัท |
5. | เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
6. | เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย |
7. | เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน |
5. การเปิดเผยและถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้เป็นความลับ แต่ทั้งนี้ ในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ หรือกรณีที่การเปิดเผยดังกล่าวมีความจำเป็น เพื่อให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุข้างต้น บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บุคคล ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
(ก) | กลุ่มบริษัทที่มีความเกี่ยวข้อง และบริษัทในเครือของบริษัท: บริษัทจะแชร์หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทในเครือ |
(ข) | ผู้รับเหมา/คู่สัญญา: ในกรณีที่บริษัททำการจ้างผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการใดอันจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น รหัสไปรษณีย์ การวิเคราะห์ทางสถิติ หรือกิจกรรมออนไลน์ เว็บไซต์ของผู้รับเหมา/คู่สัญญาจะกำหนดขั้นตอนในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ดี ห้ามมิให้ผู้รับเหมา/คู่สัญญาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อสนับสนุนกิจกรรมหรืองานของบริษัท |
(ค) | ผู้ขาย/นายหน้า ในบางกรณี บริษัทอาจทำการแชร์ข้อมูลของท่านต่อผู้ขายหรือนายหน้าซึ่งได้รับอนุญาต เช่น บริษัท Payment Gateway เพื่อวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง เช่น การประมวลผลบัตรเครดิต |
(ง) | หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย |
(จ) | บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ |
(ฉ) | บุคคลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น |
5.2 การโอน ถ่าย และ/หรือ การส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทหรือบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นประเทศที่ท่านทำงาน หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server/Cloud ในประเทศต่าง ๆ กรณีที่ประเทศปลายทางที่อาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสม สอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด เช่น กำหนดให้ผู้รับข้อมูลมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรการของบริษัท มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือ บริษัทอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้ อนึ่ง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้จาก [] ทั้งนี้ รายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ ซึ่งบริษัทจะทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ
6. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่บริษัทจะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัทสิ้นผลบังคับเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้น ทั้งนี้ตามนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (Data Retention Policy) บริษัทจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูล ตามระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น ตามนโยบายการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Data Disposal Policy)
7. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นและภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ อีเมล และด้วยวิธีการอื่นใด รวมถึงการดำเนินการด้านการตลาดแบบตรง เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดจากบริษัท ยกเว้นการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องและจำเป็น และ/หรือ การบริการที่บริษัทได้ให้แก่ท่าน
8. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หมายความว่า มีการธำรงไว้ซึ่งความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และให้ข้อมูลอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน (availability) และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัท ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทจะมีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม บริษัท มีมาตรการการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะกำหนดให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในการนำเสนอสินค้า และเพื่อการให้บริการของบริษัท เช่น พนักงาน ตัวแทน ซึ่งบุคคลที่บริษัทอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างเคร่งครัด ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัทมีมาตรการป้องกันทั้งทางกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัททำสัญญา หรือข้อตกลงกับบุคคลที่สาม บริษัทจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทครอบครองจะมีความปลอดภัย
9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของท่านเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น
9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม
หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน
9.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
9.4 สิทธิขอคัดค้าน
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัท สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
9.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
9.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8 สิทธิร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
9.9 การใช้สิทธิ
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิและยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัท ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัท จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
สิทธิ | ระยะเวลาดำเนินการ |
---|---|
สิทธิขอถอนความยินยอม | 7 วัน |
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล | 30 วัน |
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล | |
สิทธิขอคัดค้าน | |
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล | |
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล | |
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล | 7 วัน |
10. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอก
เว็บไซต์ของบริษัทจะมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากของบริษัท ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อเข้าใจถึงรายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อตัดสินใจในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
11. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อตรวจสอบการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และนโยบาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของบริษัท รวมทั้งประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด
12. คำถามที่เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท และ/หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้
ติดต่อได้ที่ e-mail : PDPA@th.mcd.com
13. ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 9. ท่านสามารถติดต่อมายัง
ติดต่อบริษัท
ชื่อ: | บริษัท แมคไทย จำกัด Mc Thai Company Limited |
ที่อยู่: | เลขที่ 97/11 อาคาร บิ๊กซี ราชดำริห์ ห้องเลขที่ ออฟฟิศ 1 ชั้นที่ 5 ถนน ราชดำริห์ ตำบล/แขวง ลุมพินี อำเภอ/เขต ปทุมวัน จังหวัด กรุงเทพมหานคร 10330 |
ช่องทางการติดต่อ: | e-mail: communications@th.mcd.com |
ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
ที่อยู่: | เลขที่ 97/11 อาคาร บิ๊กซี ราชดำริห์ ห้องเลขที่ ออฟฟิศ 1 ชั้นที่ 5 ถนน ราชดำริห์ ตำบล/แขวง ลุมพินี อำเภอ/เขต ปทุมวัน จังหวัด กรุงเทพมหานคร 10330 |
ช่องทางการติดต่อ: | e-mail: PDPA@th.mcd.com |
14. ติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Appropriate Authority)
หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัท ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อ และ/หรือ ร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดด้านล่าง
- สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ทำหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.))
- โทรศัพท์: 02-1416747
- อีเมล: pr@mdes.go.th
- ที่อยู่: 20 หมู่ 3 ชั้น 6-9 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
15. การปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ในอนาคต ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บริษัทจะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.mcthai.co.th